“ทำงานหนักจนตาย” เช็กตัวเองเป็น”โรคบ้างาน” หรือองค์กรให้ทำงานเกินเวลา

อดีตมักจะได้ยินคำกล่าวที่ว่า “งานหนักไม่ทำให้ใครตาย” แต่ในความเป็นจริง ณ ปัจจุบันคงไม่เป็นอย่างนั้น

จากกรณีล่าสุดเฟสบุ๊ก เพจจอดับได้เปิดเผยว่า มีพนักงานบริษัทโทรทัศน์ย่านพระราม 6 เสียชีวิตบนโต๊ะทำงาน เพียงแค่ฟุบบนโต๊ะโดยสาเหตุหลักที่ทำให้เสียชีวิต เกิดจากการทำงานหนักจนตาย เพราะไม่มีเวลาพักผ่อน

โดยในโพสต์ระบุว่า บางครั้งผู้เสียชีวิตต้องทำงานควบ 2 ช่อง บางสัปดาห์ทำงานเกิน 5 วัน ไปจนถึง 7 วันเลยก็มี และก่อนหน้ามีผู้พบเห็นว่าผู้เสียชีวิตฟุบบนโต๊ะทำงานและคิดว่าหลับจึงไม่ได้ปลุก จนแม่บ้านเป็นผู้พบว่าพนักงานรายนี้เสียชีวิตแล้วในช่วงเช้าวันถัดมา

ทั้งนี้ ก่อนที่ผู้เสียชีวิตต้องตายคาโต๊ะทำงาน เขาเคยพูดว่า ‘ต้องให้ตายก่อนใช่ไหม’ ถึงจะหาคนมาช่วยเขา

สังคม

ไทยติดอันดับทำงานหนักที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดการตั้งคำถามมากมายว่าประเทศไทยเป็นเมืองที่มีผู้คนทำงานหนักขนาดไหน?

ผลสำรวจของ Kisi บริษัทเทคโนโลยีให้คำปรึกษาด้านการทำงาน เกมสล็อต ที่ได้ทำผลสำรวจทั่วโลกในหัวข้อ “Cities with the Best Work-Life Balance 2021” เพื่อค้นหาว่าเมืองไหนในโลกที่มีการทำงานที่สมดุลที่สุดแห่งปี 2021 และอีกหัวข้อคือ ” Cities with the Overworked 2021” หรือเมืองที่มีประชากรที่มีชั่วโมงการ “ทำงาน” ที่ยาวนาน และชีวิตไลฟ์สไตล์ขาดความสมดุลมากที่สุด

“โดยผลสำรวจเมืองที่มีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน และชีวิตคนในเมืองขาดความสมดุลมากที่สุดในโลก พบว่า กรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทยติดอันดับ 3 ของผลสำรวจชุดนี้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าวิตกของวัยทำงานชาวกรุง”

สำหรับ 5 อันดับเมืองที่เมืองที่มีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานและชีวิตคนในเมือง ขาดความสมดุลมากที่สุดในโลก มีดังนี้

อันดับ1 ฮ่องกง : ประเทศจีน

อันดับ2 สิงคโปร์ : ประเทศสิงโปร์

อันดับ3 กรุงเทพ : ประเทศไทย

อันดับ4 บัวโนสไอเรส :ประเทศอาร์เจนตินา

อันดับ5 โซล : ประเทศเกาหลีใต้

โดยงานวิจัยนี้วางมาตรฐานของการทำงานเอาไว้ว่า หากใครที่ทำงานตั้งแต่ 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ขึ้นไปจะถือว่าเป็นคนที่ทำงานหนัก (Overworked) นั้นคือ การทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ เฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งหากคำนวณออกมาแล้วพบว่าคนกรุงเทพฯ ทำงานมากกว่า 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แนะนำข่าวเพิ่มเติม>>> ผอ.รพ.เชียงแสน สั่งพักงานแพทย์หญิงด่าคนไข้ 7 วัน พบรักษาตามมาตรฐาน

ผอ.รพ.เชียงแสน สั่งพักงานแพทย์หญิงด่าคนไข้ 7 วัน พบรักษาตามมาตรฐาน

ผอ.รพ.เชียงแสน จ.เชียงราย แสดงความเสียใจ  สั่งพักงานแพทย์หญิงแล้ว 7 วัน หลังคลิปด่าคนไข้ว่อนโซเชียล 

จากกรณีมีคลิปแพร่หลายในโซเชียลมีเดีย ปรากฏเหตุการณ์ในที่สถานที่โรงพยาบาลเชียงแสน โดยในคลิปเป็นเสียงการสนทนาของคนหลายคนซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นญาติของคนไข้คนหนึ่ง ที่กำลังพูดกับ ‘บุคลากรทางการแพทย์’ ซึ่งต่อมาถูกระบว่าเป็น ‘แพทย์หญิง’ คนหนึ่ง ในช่วงหนึ่งมีเสียงถามว่า “สมมุติว่าเป็นญาติของคุณมา…” ซึ่งทางบุคลากรทางการแพทย์คนดังกล่าวซึ่งกำลังนั่งไขว้ห้างเล่นโทรศัพท์มือถือ ตอบทันทีว่า “ฉันก็จะทำแบบนี้เหมือนกันถ้าญาติฉันโง่ขนาดนี้”

ล่าสุด นพ.สุขชัย เธียรเศวตตระกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงแสน จ.เชียงราย เปิดแถลงข่าวระบุว่า  “ตามที่ได้มีการเผยแพร่คลิปในสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 65 ช่วงเวลา 19.00-20.00 น. ทางโรงพยาบาลเชียงแสนขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากเหตุการณ์หญิงไทยอายุ 36 ปี ท้องอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ มาด้วยอาการ มีอาเจียนบ่อยมากกว่า 10 ครั้ง กินไม่ได้อ่อนเพลีย มวนท้อง ผู้ไปรักษาที่คลินิกเอกชน

หลังกลับไปบ้าน ยังมีอาการคลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย เลยมารักษาที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเชียงแสน เวลา 18.35 น. แพทย์สั่งยากรักษาด้วยการฉีดยาแก้อาเจียน แต่ผู้ป่วยไม่ต้องการยาฉีด ขอนอนโรงเพยาบาลและให้น้ำเกลือ แพทย์ไม่ดำเนินการตามที่ผู้ป่วยร้องขอ ทำให้ผู้ป่วยไม่พอใจ และเรียกญาติเข้ามาในห้องฉุกเฉิน ได้มีการโต้เถียง ตามที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว”

“ทางโรงพยาบาลเชียงแสน ได้ทบทวนมาตรฐานการรักษาพยาบาลซึ่งพบว่า การรักษาเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเบื้องต้นมาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ได้ให้แพทย์รายดังกล่าวหยุดปฏิบัติงานเป็นเวลา 7 วัน ระหว่างรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกืดขึ้นโดยละเอียด สำหรับผู้ป่วยได้ติดตามสอบถาม อาการทราบว่า ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย อาการดีขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ผมในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงแสน และแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะได้นำมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงการให้บริการ เพื่อจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก พร้อมกันนี้ได้รายงานผลการทบทวนเหตุการณ์ดังกล่าวให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงรายรับทราบแล้ว ส่วนรายงานสรุปเหตุการณ์โดยละเอียดจะรายงานผู้บังคับบัญชาอีกครั้ง” นพ.สุขชัย กล่าว

อัพเดทข่าวสังคม แนะนำข่าวเพิ่มเติม : รมว.แรงงานเปิดเวทีประชุมวิชาการประกันสังคม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

รมว.แรงงานเปิดเวทีประชุมวิชาการประกันสังคม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

รมว.แรงงาน เปิดเวทีการประชุมวิชาการประกันสังคม ประจำปี 2565 แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ชูองค์ความรู้ แนวคิด ประสบการณ์

รมว.แรงงาน เปิดเวทีการประชุมวิชาการประกันสังคม ประจำปี 2565 แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในหัวข้อ “Modernizing SSO การบริการที่ทันสมัยกับสิทธิประโยชน์ประกันสังคมที่ยั่งยืน”

สังคม

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 7 ตุลาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการประกันสังคม ประจำปี 2565 ภายใต้หัวข้อ “Modernizing SSO การบริการที่ทันสมัยกับสิทธิประโยชน์ประกันสังคมที่ยั่งยืน” และมอบโล่เกียรติคุณโครงการสำรวจความพึงพอใจสำนักงานประกันสังคม ปี 2564

จากนั้นได้ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ความท้าทายของสำนักงานประกันสังคม โดยมีนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงสังกัดกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมการประชุม ที่อาคารอิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

นายสุชาติ กล่าวว่า การประกันสังคมเป็นโครงการที่สร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตให้แก่ลูกจ้างผู้ประกันตนและการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตให้แก่ประชาชน เป็นหัวใจสำคัญในการวางรากฐานของการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน สำนักงานประกันสังคมได้มีส่วนในการช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์วิกฤติ เช่น กรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นวงกว้าง กระทรวงแรงงาน